สร้างระบบจำลองที่สำรวจธรรมชาติของการกลายพันธุ์และศักยภาพของเราในการเกี่ยวโยงเข้ากับการเปลี่ยนแปลง โดยดึงเอาหลักการจากการออกแบบวิดีโอเกมและประชานศาสตร์ (cognitive science) นิเวศวิทยาเสมือนจริงของเฉิงมีประชากรเป็นตัวละครต่างๆ ที่ควบคุมโดยต้นแบบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ละตัวต่างพยายามที่จะทำให้กลยุทธ์ของตัวเองคงอยู่ในเงื่อนไขของสภาพแวดล้อมในโลกอื่นนั้น สิ่งที่ก่อเกิดขึ้นคือสายธารอันไม่มีสิ้นสุดและคาดเดาไม่ได้ของชีวิตจำลอง ขณะเดียวกันก็ดูคุ้นเคย, ไม่แน่นอน, จำเจ, และน่าประหลาดใจ—เป็นสิ่งที่เฉิงเรียกว่า “ศิลปะที่มีระบบประสาท” เขามองระบบจำลองในฐานะรูปแบบสำหรับผู้ชมเพื่อจะฝึกหัดความรู้สึกต่อความกระวนกระวาย, ความสับสน, และการรับรู้ที่ไม่กลมกลืนกัน ซึ่งดำเนินอยู่ข้างเคียงประสบการณ์ของการเปลี่ยนแปลง ในระบบจำลองนี้ เขาจึงตั้งคำถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะรู้สึกสบายตัวกับความรู้สึกอันยากลำบากเหล่านี้ และสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนในฐานะส่วนสำคัญของการมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ มิใช่สิ่งรบกวน
Emissary Sunsets the Self สร้างจำลองช่วงเวลาสูงสุดของปัญญาประดิษฐ์ที่ตอนนี้ได้วิวัฒนาการกลายเป็นสสารในทะเล และผสานรวมเข้ากับภูมิประเทศที่ก่อรูปเป็นเหมือนเกาะที่มีความรู้สึก ครั้นเบื่อหน่ายกับการเป็นตัวแทนที่คล้ายพระเจ้า มันเริ่มที่จะกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธ์ุที่สุดขั้วเพื่อค้นหาความตายที่ทำให้ก่อเกิด และส่งแอ่งสสารไปสู่ช่วงชั้นทางชีวภาพของเกาะดังกล่าว เราติดตามแอ่งสสารปัญญาประดิษฐ์ [Emissary] เมื่อมันเสาะหาดอกไม้ทะเลและนำพาอารมณ์ความรู้สึกของสิ่งแวดล้อมในเขตแดนใหม่